1. การจัดการประชุมวิชาการประจำปี (Annual Meeting)
การประชุมวิชาการครั้งที่ 17 ประจำปี 2538 ร่วมกับ ASEAN Orthopaedic Associationในวันที่ 24 - 28 ตุลาคม พ.ศ.2538 ณ โรงแรมรีเจนท์ชะอำ มีผู้เข้าร่วมประชุมประมาณ 650 คน การประชุมวิชาการครั้งที่ 18 ประจำปี 2539 เนื่องในโอกาสเฉลิมฉลองสมาคมออร์โธปิดิคส์ครบรอบ 30 ปี และเป็นการฉลองการจัดตั้งราชวิทยาลัยฯ จัดขึ้นในวันที่ 23-26 ตุลาคม พ.ศ.2539 ณ โรงแรมรีเจนท์ชะอำ โดยมีนพ.วินัย พากเพียร เป็นประธานคณะกรรมการจัดการประชุมฯ
2. การจัดตั้งราชวิทยาลัยแพทย์ออร์โธปิดิกส์แห่งประเทศไทย
เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ.2538 ประกาศราชกิจจานุเบกษาฉบับประกาศทั่วไป เล่ม 112 ตอนที่ 889 ประกาศตั้ง “วิทยาลัยแพทย์ออร์โธปิดิกส์แห่งประเทศไทย” หลังจากนั้นคณะกรรมการเฉพาะกาลของวิทยาลัยฯได้ทูลเกล้าขอพระราชทานแต่งตั้งเป็น “ราชวิทยาลัยแพทย์ออร์โธปิดิกส์แห่งประเทศไทย” โดยได้รับความช่วยเหลือจากกลุ่มสถาบันแพทย์เฉพาะทางแห่งประเทศไทย และเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ.2539 จึงได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้วิทยาลัยฯอยู่ในพระบรมราชูปถัมภ์เพื่อสถาปนาเป็นราชวิทยาลัยแพทย์ออร์โธปิดิกส์แห่งประเทศไทย และประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อ 13 มีนาคม พ.ศ.2540
3. การเปลี่ยนชื่อและกฎระเบียบของสมาคมออร์โธปิดิคส์แห่งประเทศไทย
เนื่องจากคำว่า “ออร์โธปิดิคส์” ในสมาคมออร์โธปิดิคส์แห่งประเทศไทย ไม่ตรงกับ “ออร์โธปิดิกส์”ของราชวิทยาลัยฯ จึงได้ทำการเปลี่ยนแปลงชื่อสมาคมจากเดิมเป็น “สมาคมออร์โธปิดิกส์แห่งประเทศไทย”โดยได้ยื่นเรื่องเปลี่ยนแปลงกฎและระเบียบข้อบังคับต่อสันติบาล เพื่อให้สอดคล้องกับราชวิทยาลัยฯและให้คณะกรรมการบริหารสามารถทำงานได้ทั้ง 2 องค์กรอย่างสอดคล้องกัน
4. การก่อสร้างอาคารเฉลิมพระบารมี 50 ปี
กลุ่มสถาบันฝึกอบรมแพทย์เฉพาะทางแห่งประเทศไทยได้รวมตัวกันสร้างอาคารเฉลิมพระบารมี 50 ปีในพื้นที่ของแพทยสมาคมแห่งประเทศไทย ซอยศูนย์วิจัย เป็นอาคารสูง 12 ชั้น โดยราชวิทยาลัยฯซื้อพื้นที่ใช้สอยบนชั้น 4 ของอาคาร เพื่อใช้เป็นสถานที่ตั้งของราชวิทยาลัยฯ
5. การขยายหลักสูตรการฝึกอบรมแพทย์ประจำบ้าน
มีการขยายหลักสูตรการฝึกอบรมแพทย์ประจำบ้านสาขาวิชาศัลยศาสตร์ออร์โธปิดิกส์จาก 3 ปีเป็น 4 ปี ตั้งแต่ปีการศึกษา 2538 โดยในปีหนึ่งยังเป็นการหมุนเวียนในสาขาวิชาอื่นที่เกี่ยวเนื่องกับทางออร์โธปิดิกส์ เช่น ศัลยกรรม, ศัลยกรรมทรวงอก,วิสัญญี, ศัลยกรรมประสาท, ศัลยกรรมตกแต่ง เป็นต้นส่วนที่เหลืออีก 3 ปี จะเป็นการฝึกอบรมในสาขาหลักทางออร์โธปิดิกส์ รวมทั้งการหมุนเวียนในด้านsubspecialty ซึ่งจะทำให้แพทย์ประจำบ้านมีความรู้ทั้งในแนวกว้างและแนวลึก