ศ.คลินิกเกียรติคุณ นพ.ประสิทธิ์ กองเกตุใหญ่
ศ.คลินิกเกียรติคุณนพ.ประจวบ บิณฑจิตต์ เป็นแพทย์ออร์โธปิดิกส์เก่าแก่ของศิริราช เป็นกำลังสำคัญในระยะแรกของแผนกศัลยศาสตร์ออร์โธปิดิคส์และกายภาพบำบัด ของครูใหญ่ของเราทั้งสองท่าน คือศ.นพ.เฟื่อง สัตย์สงวน และศ.เกียรติคุณนพ.นที รักษ์พลเมือง ในการตั้งภาควิชาใหม่และในเรื่องการผ่าตัดรักษาโดยเฉพาะการจัดกระดูกให้เข้าที่ มีเทคนิคที่ดีทำให้หัตถการต่างๆ ดูง่ายไปหมด ผลการผ่าตัดราบรื่น ผลดีที่เกิดต่อแพทย์รุ่นน้องก็คือ ถ้าท่านอาจารย์ใหญ่อ.เฟื่องมีอ.นที หรือ อ.ประจวบ ช่วยผ่าตัด ทุกอย่างดูราบรื่นไปหมดเป็นคนที่มีอารมณ์ขัน เป็นคนที่มีน้ำใจและรักลูกน้องมาก มีมุขตลกมากมายมีชีวิตเรียบร้อย “เป็นคนคมในฝักที่นักเลงเรียกว่าพี่คนหนึ่ง” ชอบพระเครื่องและกีฬามวยเป็นชีวิตจิตใจ
ท่านเกิดเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม พ.ศ.2476 เป็นบุตรโทนของนายปรากิม และนางบุญปลูก บิณฑจิตต์ณ ตำบลหนองฉาง จังหวัดอุทัยธานี เรียนระดับประถมศึกษา จากโรงเรียนประจำจังหวัดอุทัยธานี มาต่อระดับมัธยมศึกษาที่โรงเรียนเซนต์คาเบรียล และโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาตามลำดับ ท่านศึกษาระดับอุดมศึกษาได้ปริญญาวิทยาศาสตร์บัณฑิต จากคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และปริญญาแพทยศาสตร์บัณฑิตจากคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ รุ่นที่ 64 ในปีพ.ศ.2502 ท่านเข้ามาเป็นแพทย์ประจำบ้านศัลยศาสตร์หน่วยศัลยศาสตร์ออร์โธปิดิกส์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ในปีพ.ศ.2502 และรับการบรรจุเป็นอาจารย์แพทย์เมื่อ 1 ตุลาคม พ.ศ.2505
ท่านได้รับทุนไปศึกษาต่อ ณ ประเทศออสเตรีย ได้รับ Certificate in Orthopaedics and TraumaticSurgery จาก University of Vienna ในปีพ.ศ.2510 แล้วไปศึกษาต่อที่ Boston City Hospital ได้รับCertificate in Orthopaedics จาก Taft University, Massachusetts ประเทศสหรัฐอเมริกา ในปีพ.ศ.2513แล้วกลับมาเป็นอาจารย์ในภาควิชาศัลยศาสตร์ออร์โธปิดิกส์และกายภาพบำบัด คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ท่านสอบได้หนังสืออนุมัติชำนาญเฉพาะทางศัลยศาสตร์ออร์โธปิดิกส์ จากแพทยสภา รุ่นแรกในปีพ.ศ.2514
ประวัติการทำงาน
ท่านดำรงตำแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์ เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ.2518 และรองศาสตราจารย์เมื่อวันที่ 1 มกราคม พ.ศ.2525 เป็นรองหัวหน้าภาควิชาศัลยศาสตร์ออร์โธปิดิคส์และกายภาพบำบัด ตั้งแต่ 31มกราคม พ.ศ.2529 ถึง 8 ธันวาคม พ.ศ.2531 เป็นอาจารย์ที่ปรึกษาทางศัลยศาสตร์ออร์โธปิดิกส์ ที่โรงพยาบาลชลประทาน โรงพยาบาลวชิรพยาบาลและโรงพยาบาลพระปกเกล้าฯ กรมแพทย์ทหารเรือ และเป็นวิทยากรสอนนักศึกษาพยาบาล คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยหัวเฉียว
ในแง่ความรู้ความสามารถท่านได้ชื่อว่ามีทักษะที่ดีเยี่ยมในเรื่องการผ่าตัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องการจัดกระดูกดังกล่าวมาแล้วนอกจากนี้ท่านเป็นคนที่ไม่หยุดนิ่ง แสวงหาความรู้ใหม่ๆ เสมอ เป็นอาจารย์ออร์โธปิดิกส์รุ่นแรกๆ ที่เข้าอบรม AO Course ตลอดจนการเปลี่ยนข้อเทียม โดยเฉพาะข้อสะโพกเทียม ทำให้มีคำพูดในหมู่แพทย์ประจำบ้านว่า “ไม่มีอะไรยากในมือของอาจารย์ประจวบ” และยังได้ฉายาว่า “Watson จวบ” (เพื่อล้อเลียน Watson Jones ของอังกฤษ)
เป็นอาจารย์แพทย์ที่มีรูปแบบการสอนที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว จะให้โอกาสลูกศิษย์ได้มีโอกาสพิจารณาไตร่ตรอง เป็นที่พึ่งของศิษย์ตลอดเวลา ในการผ่าตัดถ้าศิษย์ได้ทำการผ่าตัด แล้วเกิดอุปสรรค อาจารย์จะเหมือนมีตาทิพย์เข้ามาช่วยแก้ไข หรือชี้แนวทางการแก้ปัญหาให้ทันเวลาเสมอ แม้เมื่อศิษย์จบไปแล้วต้องการความช่วยเหลือ อาจารย์ยินดีจะไปช่วยเหลืออยู่เสมอในด้านวิชาการ อาจารย์จะเข้าร่วมประชุมของภาควิชาฯและราชวิทยาลัยฯสม่ำเสมอมิได้ขาด
สุขภาพเป็นเรื่องหนึ่งที่เป็นปัญหาของอาจารย์ ความที่ตอนรุ่นหนุ่มท่านเป็นคนอ้วน แม้กระทั่งจบแพทย์มาเป็นอาจารย์ก็ยังอ้วนอยู่ (น้ำหนักประมาณ 80 กว่ากิโลกรัม) แต่ท่านมีวิธีการลดน้ำหนักเฉพาะตัวของท่านทำให้เมื่อกลับมาจากอเมริกาท่านมีรูปร่างผอมสะโอดสะอง ผมเผ้ายุ่งเหยิงแบบฮิปปี้ เมื่อกลับมาเมืองไทยพวกเราแพทย์ออร์โธปิดิกส์แทบจำไม่ได้ รูปร่างท่านสูงสง่าสมชาย แต่ท่านเริ่มมีอาการของโรคหัวใจโจมตีในประมาณปีพ.ศ.2528 เมื่อแพทย์แนะนำให้ออกกำลังกาย ท่านจึงเป็นสมาชิกประจำคนหนึ่งของชมรมเทนนิสศิริราชจนกระทั่งเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ.2547 อาจารย์ออกจากบ้านตั้งแต่ 8.00 น. เพื่อเล่นเทนนิสที่ศิริราชและขณะจะข้ามรั้วสนามเทนนิส ท่านหกล้มหน้าฟาดพื้นแต่ยังรู้สึกตัวดีบอกให้เจ้าหน้าที่พาไปตรวจที่ห้องฉุกเฉินขณะเอกซเรย์มีเลือดออกจากจมูกและปาก หัวใจหยุดเต้น แพทย์ทำ Cardiac resuscitation จนฟื้นกลับมาตรวจพบว่ามีเส้นเลือดหัวใจตีบตัน 3 เส้น หลังการผ่าตัด Coronary bypass มีปัญหาเลือดออกในสมอง ถึงแก่กรรมในวันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ.2547 รวมอายุได้ 72 ปี