รศ.นพ.เฉลิมชาติ รัตนเทพ (2472-2558)

ศ.คลินิกเกียรติคุณ นพ.ประสิทธิ์ กองเกตุใหญ่


ท่านเป็นแพทย์ออร์โธปิดิกส์เก่าแก่คนหนึ่งของศิริราช สมัยที่ศัลยศาสตร์ออร์โธปิดิคส์และกายภาพบำบัด ยังอยู่ในแผนกศัลยศาสตร์ ท่านมีประวัติเป็นที่น่าสนใจ และเป็นนักเรียนที่เรียนเก่งมากเป็นผลิตผลจากโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ท่านเกิดเมื่อวันที่ 7 กันยายน พ.ศ.2472 ณ บ้านในอำเภอเมืองจังหวัดพระตะบอง ประเทศกัมพูชา เป็นบุตรนายตวด และนางโพธิ รัตนเทพ เรียนระดับประถมศึกษาที่จังหวัดพระตะบอง ประเทศกัมพูชา ดังนั้น ท่านจึงพูดภาษาเขมร และฝรั่งเศสได้ดี ต่อมาบิดามารดา ย้ายมากรุงเทพฯท่านเรียนชั้นมัธยมศึกษา (ม.6) ที่โรงเรียนมัธยมบ้านสมเด็จเจ้าพระยา แล้วจึงมาศึกษาต่อชั้นเตรียมอุดมศึกษาปี 1-2ที่โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย โดยสอบติดบอร์ดที่ 2 ของประเทศในปี พ.ศ.2491 (ที่ 1 คือ นพ.ดิเรก ดำรงศักดิ์แพทย์ศิริราชรุ่นเดียวกับท่าน)

ท่านศึกษาระดับอุดมศึกษาจากคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ เพื่อนๆยอมรับว่าท่านเรียนเก่งที่สุด แต่สงบเสงี่ยมมาก ชอบถ่อมตัว เพื่อนๆ รักมาก ท่านเข้ามาเป็นแพทย์ประจำบ้านศัลยศาสตร์ในปีพ.ศ.2497 ต่อมาได้รับตำแหน่งหัวหน้าแพทย์ประจำบ้าน และหัวหน้าแพทย์ประจำบ้านอาวุโสตามลำดับ (2498-2500)

ในปีพ.ศ.2501 ได้รับทุน SEATO ของรัฐบาลฝรั่งเศสไปศึกษาวิชาศัลยศาสตร์ออร์โธปิดิกส์กับProfessor Merle d’Aubigne ที่โรงพยาบาลโกแชง (Cochin) มหาวิทยาลัยปารีส ฝึกงานทาง hip และ spineช่วงสุดท้ายได้ทำวิทยานิพนธ์เรื่อง การผ่าตัดรักษาโรคปวดหลังจากความเสื่อมของกระดูกสันหลังได้รับ Post. Doctorate Diploma in Orthopaedic Surgery เมื่อปี พ.ศ. 2502

ปีพ.ศ.2503 ท่านกลับมารับการบรรจุเป็นอาจารย์โท แผนกศัลยศาสตร์ (ออร์โธปิดิกส์) และย้ายกลับไปเป็นอาจารย์โทและเอกแผนกศัลยศาสตร์ทั่วไปในปีพ.ศ.2506-2508 ตามลำดับ ท่านมีแนวความคิดใหม่ๆทาง spine บางเรื่องจากประสบการณ์จากสถาบันที่ท่านได้ศึกษามา อาทิเช่น การทำ Filum terminalectomyในการรักษาโรคปวดหลัง หรือการระบายนน้ำเหลืองใน giant cell tumor ของกระดูก ตลอดจนการทำผ่าตัดในplantar fasciitis เป็นต้น การผ่าตัดของท่านมีทั้งที่ศิริราชและโรงพยาบาลอื่นในกรุงเทพฯ เช่น โรงพยาบาลยาสูบและโรงพยาบาลเซนต์หลุยส์ แต่ที่เป็นประโยชน์มากคือ ท่านออกเสนอบทความ รวมทั้งการสอนและสาธิตการแสดงการผ่าตัดในโรงพยาบาลต่างจังหวัดใกล้เคียง อาทิเช่น โรงพยาบาลบ้านโป่ง โรงพยาบาลราชบุรี
โรงพยาบาลอินทร์บุรี โรงพยาบาลสิงห์บุรี เป็นต้น

ท่านเป็นแพทย์ออร์โธปิดิกส์กลุ่มแรกๆ ที่รวมตัวกันตั้งเป็นชมรมออร์โธปิดิคส์แห่งประเทศไทย โดยท่านได้รับหน้าที่เป็นเหรัญญิกคนแรกของชมรมฯ ต่อมาภายหลังเมื่อได้มาตั้งเป็นสมาคมออร์โธปิดิคส์และราชวิทยาลัยแพทย์ออร์โธปิดิกส์แห่งประเทศไทยตามลำดับ ท่านยังมาร่วมประชุมกับแพทย์ออร์โธปิดิกส์รุ่นน้อง รุ่นลูกอย่างสม่ำเสมอ เป็นที่น่าเสียใจที่ท่านมาประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่จังหวัดชลบุรีในปี พ.ศ. 2523 ต่อมาท่านป่วยเป็น stroke เป็นอัมพาตและเสียชีวิตในปี พ.ศ. 2558